เมื่อเอ่ยถึงสิวเป็นเรื่องที่หลายๆคนได้ยินแล้วต้องตกใจกลัวกัน เนื่องจากเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญและลำบากใจในการจัดการอย่างมาก หลายคนเมื่อเป็นสิวก็มักจะจัดการด้วยการบีบ แคะ แกะ เกาเพื่อให้หัวสิวหลุดออกซึ่งอาจจะเป็นวิธีที่ทันใจ แต่มักจะมีผลข้างเคียงตามมานั่นคือหลงเหลือรอยแผลจากการแกะ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปรอยเหล่านี้จะเกิดเป็นรอยดำคล้ำขึ้น และจะยิ่งสร้างความกังวลให้มากยิ่งขึ้น ในวันนี้จึงขอนำเสนอบทความในการดูแลจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นจากการมีรอยดำจากสิวด้วยว่านหางจระเข้ เพื่อคลายความกังวลใจให้กับผู้ที่ประสบปัญหาเหล่านี้
สำหรับประโยชน์และสารสำคัญของว่านหางจระเข้สรุปง่ายๆ ให้เข้าใจได้ ดังนี้
สารสำคัญ | ประโยชน์ต่อผิวหน้า |
---|---|
Aloctin A และ B | ช่วยลดการอักเสบใต้ผิวหนัง มีฤทธิ์ช่วยสมานแผล และช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนัง เร่งผลัดเซลล์ผิวเสีย ช่วยให้รอยแผลเป็นจากสิว ริ้วรอยและจุดด่างดำดูจางลง |
วิตามิน บี | คงความชุ่มชื้นให้ผิว ช่วยลบเลือนริ้วรอย ลดความหยาบกร้าน และช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส |
วิตามิน ซี | ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ลดและชะลอการเกิดรอยย่น และรอยตีนกาบนใบหน้า พร้อมป้องกันผิวหนังจากรังสียูวี ช่วยเร่งการสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงและมีความยืดหยุ่นดูอ่อนเยาว์ |
วิตามิน อี | ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ ลดและชะลอการเกิดรอยย่น และรอยตีนกาบนใบหน้า พร้อมป้องกันผิวหนังจากรังสียูวี |
โพแทสเซียม | ช่วยให้เซลล์ผิวหนังชุ่มชื้น เต่งตึงดูมีน้ำมีนวล |
สังกะสี | ช่วยกระชับรูขุมขน ลดการเกิดสิวอักเสบและสิวอุดตัน |
จากคุณประโยชน์ดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าว่านหางจระเข้ไม่ได้มีประโยชน์ เฉพาะการรักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกเพียงเท่านั้น แต่ยังมีสรรพคุณมหาศาลที่ช่วยให้ผิวหน้าของเราดูขาวเนียนใส ไร้สิวฝ้า ดูเต่งตึงอ่อนเยาว์เป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังช่วยลดรอยดำคล้ำจากสิวได้อีกด้วย
สำหรับสูตรนี้มีส่วนผสมสำหรับเสริมประสิทธิภาพเพิ่มเติมอีก 1 อย่าง ที่เข้าคู่กันได้อย่างลงตัวกับว่านหางจระเข้นั่นคือ น้ำมะนาว โดยสรรพคุณของส่วนผสมมีดังนี้
ส่วนผสม | ประโยชน์ต่อผิวหน้า |
---|---|
![]() | อุดมไปด้วยกรดซิตริกซึ่งมีสรรพคุณช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยฟื้นฟูผิวคล้ำเสียให้กลับมากระจ่างใสอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำร้ายผิว และช่วยปรับผิวที่มีจุดคล้ำให้กลับมาเนียนเรียบเสมอกัน นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยแผลที่เกิดจากสิวได้อีกด้วย |
ส่วนผสม
1. ว่านหางจระเข้ 1 ใบ*
2. มะนาว ½ ผล
*การเลือกใช้ใบจากต้นว่านหางจระเข้ควรเลือกต้นที่มีอายุมากกว่า 1 ขึ้นไป และให้เลือกใบล่างสุดเพราะจะอวบโตและมีวุ้นมากกว่าใบที่อยู่ด้านบน
อุปกรณ์และภาชนะในการเตรียม
1. ช้อนหรือทัพพี ใช้สำหรับผสมตำรับ 1 คัน
2. ช้อนตวง ใช้สำหรับตวงส่วนผสม 1 คัน
3. ชามขนาดปานกลาง ใช้สำหรับผสม 2 ใบ
4. มีดสำหรับปอก 1 เล่ม
ขั้นตอน
1. ล้างใบของว่านหางจระเข้ด้วยน้ำสะอาด
2. หั่นเปลือกด้านข้างที่เป็นหนามของว่านหางจระเข้ออก
3. จากนั้นปอกเปลือกด้านบนของว่านหางจระเข้ตามแนวยาวออก จะเห็นเป็นเนื้อวุ้นใสๆ อยู่ภายใน
4. ใช้ความระมัดระวังในการหั่นเอาเฉพาะเนื้อวุ้นออกมาใช้ และพยายามอย่าให้ติดเปลือกมาด้วยเนื่องจากบริเวณเปลือกที่มีน้ำยางจะมีสารชื่อ แอนทราควิโนน (Anthraquinone) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ระคายเคืองผิวหนัง อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ หรือคันได้ในบางราย (จากรายงานการวิจัยพบได้น้อยกว่า 1% ของผู้ใช้) หากไม่มั่นใจสามารถน้ำไปล้างน้ำสะอาดเพื่อขจัดน้ำยางออกก่อนนำมาใช้ในสูตรได้
5. นำเนื้อวุ้นที่หั่นได้ใส่ลงไปในชามที่เตรียมไว้
6. บีบมะนาวครึ่งลูกใส่ในเนื้อวุ้นที่เตรียมไว้
7. คนผสมส่วนประกอบทั้งหมดให้เข้ากัน
8. นำสูตรที่เตรียมไว้พอกหรือทาบริเวณรอยดำ ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที
9. ล้างออก ด้วยน้ำสะอาดโดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใดๆ
คำแนะนำเพิ่มเติม
ว่านหางจระเข้จะมีคุณภาพสูงสุดเมื่อตัดมาแล้วใช้ทันที และจะมีสรรพคุณที่มีประโยชน์ต่อผิวหนังที่ดีกว่าผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป นอกจากนี้วุ้นสดจะมีความคงตัวน้อยซึ่งอยู่ได้เพียง 6 ชั่วโมง ภายหลังจากการปอกเปลือก ดังนั้นในการเตรียมเพื่อใช้แต่ละครั้งให้ทำในปริมาณที่พอเหมาะ
แสดงความคิดเห็น